วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553

อุปกรณ์ในการจัดฟัน

อุปกรณ์ในการจัดฟัน

ลวดจัดฟัน


ลวดที่นิยมใช้ในการจัดฟัน มี 2 แบบ คือ
1. ลวดสแตนเลส มีความแข็งแรง ไม่บิดงอได้ง่าย สามารถดัดขึ้นรูปได้
และมีความฝืดต่ำในการเคลื่อนผ่านช่องของเครื่องมือ (Bracket)
2. ลวดโลหะผสม เช่น ลวดนิเกิ้ลไทเทเนียม (Nickle-Titanium, NiTi) มีความนิ่ม โค้งงอได้และกลับคืนรูปได้เหมือนเดิม จึงนิยมใช้ในช่วงแรกๆ ของการดัดฟัน ที่ฟันยังเกอยู่มาก

หมุดจัดฟันไทเทเนียม (Mini-Implant)

เป็นเครื่องมือเสริมในการจัดฟัน เพิ่งเริ่มมาไม่นาน ลักษณะเป็นหมุดไทเทเนียมขนาดเล็กฝังผ่านเหงือกไปที่กระดูกที่ไม่มีฟันอยู่ เพื่อเป็นหลักยึดในการดึงฟันไปในทิศทางต่างๆ ที่ต้องการ ซึ่งหมุดจัดฟันนี้ใช้เฉพาะในการจัดฟันเท่านั้น หลังจากฟันที่ต้องการเคลื่อนไปสู่ตำแหน่งที่ต้องการแล้วก็จะเอาหมุดออก

หนังยางดึงฟัน

การเลื่อนฟันบางตำแหน่งในการจัดฟัน ต้องอาศัยความร่วมมือของคนไข้เป็นสิ่งสำคัญ โดยการใส่หนังยางดึงฟัน (Elastic) ตามที่ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำอย่างเคร่งครัดจะทำให้ฟันเลื่อนเข้าที่ได้รวด เร็ว ทันตแพทย์จัดฟันจะแนะนำวิธีใส่หนังยาง ทิศทางและตำแหน่งของหนังยาง รวมทั้งระยะเวลาในการใส่ เช่น ใส่ตลอดเวลา หรือ ใส่เฉพาะบางเวลา คนไข้ควรเปลี่ยนหนังยางทุก 12 - 24 ชั่วโมงหลังใส่ เพราะยางจะล้า หมดแรงดึง ควรใส่หนังยางคืนทันทีหลังทานอาหารและหลังทำความสะอาดฟัน การใส่หนังยางไม่สม่ำเสมอ ฟันจะเลื่อนไปแล้วเลื่อนกลับ ถ้าตะขอที่เกี่ยวหนังยางบิด หรือหัก ให้รีบติดต่อทันตแพทย์ทันที ฟันที่เกี่ยวหนังยางอาจมีอาการเจ็บ ๆ หรือ โยกเล็กน้อย หลังใส่หนังยางเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นปกติ ไม่ต้องกังวล ถ้ามีอาการมากผิดปกติ ให้ติดต่อทันตแพทย์

ยางแยกฟัน

ยางแยกฟัน (Separator) ใช้ในการเตรียมฟันเพื่อใส่เครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น โดยยางจะค่อย ๆ ดันฟันหลังซึ่งปกติจะอยู่ชิดกันแน่นให้หลวมขึ้น เพื่อเป็นที่อยู่ของแหวนดัดฟันหรือแบนด์ (Band)
เมื่อเริ่มใส่ยางแยกฟัน จะรู้สึกแน่น ๆ เหมือนมีเศษอาหารติด เวลากัดฟันอาจรู้สึกว่ากัดโดนยางเพราะส่วนหนึ่งของยางแยกฟันอยู่บนด้านสบฟัน ถ้ามีอาการปวดหรือแน่นมาก สามารถ ทานยาแก้ปวดได้ อาการปวดจะบรรเทาลง ใน 2-3 วัน ควรเลี่ยงอาหารเหนียวที่จะติดและดึงยางแยกฟันออก และเลี่ยงการใช้ไหมขัดฟันบริเวณนี้ชั่วคราวเพราะยางจะหลุดได้ หากยางแยกฟันหลุดเกินกว่า 3 วันก่อนวันนัดติดแบนด์ ควรติดต่อทันตแพทย์เพื่อใส่ยางให้ใหม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น